การดูแลถุงลม Airspring สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

การดูแลถุงลม Airspring สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

ถุงลม Airspring เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในโรงงานอุตสาหกรรมมากมาย แม้จะมีข้อดีที่หลากหลาย แต่ก็ยังต้องการการดูแลบำรุงรักษาอยู่ดี

ถุงลม Airspring

     ภาพของโรงงานอุตสาหกรรมยุคเก่า ที่เต็มไปด้วยเครื่องจักหนักขนาดใหญ่เต็มโรงงาน เน้นการใช้อุปกรณ์ขนาดใหญ่ ที่เราคุ้นชินกันดี เริ่มถูกปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์มาอย่างต่อเนื่อง จากการเข้ามาของเทคโนโลยีและนวัตกรรมรูปแบบใหม่ ๆ ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน 

แน่นอนว่า การเข้ามาของนวัตกรรมใหม่ ๆ ย่อมต้องหมายถึงการลงทุนเพิ่มของผู้ผลิตในโรงงานแต่ละแห่ง ดังนั้น การตัดสินใจยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าในการลงทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ได้หมายถึงการลงทุนเพียงครั้งเดียวแล้วจบกัน เพราะเครื่องจักรหนักนั้น ใช้งานกันหลักสิบปี ถึงจะมีการคุ้มทุนและพิจารณาปรับเปลี่ยน

หนึ่งในนวัตกรรมรุ่นใหม่ที่เข้ามาทดแทนเทคโนโลยีแบบดั้งเดิม ก็คือถุงลม Airspring ที่มีชื่อเรียกอย่างหลากหลาย บางทีเราอาจจะคุ้นชินกับชื่อ Air bellow หรือจะเรียกแบบไทย ๆ ก็คือหมอนลมนั่นเอง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาทดแทนในส่วนของระบบกันสะเทือน จากเทคโนโลยีคอยล์สปริงที่ใช้กันมาเนิ่นนาน

ผู้ประกอบการหลายรายทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รวมถึงในธุรกิจย่อย อย่างเช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ หรืออุตสาหกรรมเครื่องจักรสำหรับงานขนส่ง ได้หันมาใช้ถุงลม Airspring กันมากขึ้น แม้ว่าต้นทุนอาจจะสูงกว่า แต่ก็ถือว่ามีความคุ้มค่า จากการที่ค่าบำรุงรักษาและความต้องการในการดูแลนั้น ลดน้อยลงไปกว่าเทคโนโลยีเดิมมาก

ก่อนที่จะเข้าไปถึงส่วนที่จะบอกว่า การดูแล บำรุงรักษาถุงลม Airspring นั้นเป็นอย่างไร ทำไมเราถึงบอกว่ามันยุ่งยากน้อยกว่า และมีค่าบริการที่ถูกกว่าอย่างชัดเจน ขอพาทุกคนไปรู้จักกับเทคโนโลยีใหม่นี้เสียก่อน ว่าเพราะอะไรถึงเข้ามาทดแทนคอยล์สปริงที่ใช้งานกันมาอย่างยาวนานได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ถุงลม Airspring นั้น เป็นอุปกรณ์สำหรับการแบ่งรับแรงสั่นสะเทือนจากต้นกำเนิดแรงสั่นไปสู่วัสดุอื่น ๆ ที่ถูกนำเข้ามาชดเชยการใช้งานของการควบคุมแรงสั่นสะเทือนผ่านระบบโช๊คอัพและคอยล์สปริง โดยปกติแล้ว จะใช้ในการแยกแรงสั่นที่เกิดจากเครื่องจักรที่มีแรงสั่นสะเทือนสูงอย่างปั้มลมหรือมอเตอร์ เพื่อไม่ให้ส่งแรงสั่นสะเทือนไปที่ผู้ใช้งานหรืออุปกรณ์อื่น ๆ การที่มีอุปกรณ์อย่างถุงลม Airspring ในการลดแรงสั่นสะเทือนนั้น จะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนของการทำงานที่ลดลง ลดความเสียหายของอุปกรณ์และเครื่องจักรต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงลงไปได้

ขณะเดียวกัน ก็มีการนำนวัตกรรมนี้ไปใช้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการลดแรงสั่นสะเทือนในห้องโดยสารรถยนต์หรือรถโดยสาร และเริ่มแพร่หลายในกลุ่มรถขนส่งขนาดใหญ่ รวมถึงอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ก็นำข้อดีเหล่านี้ไปใช้ในการสร้างตึกเพื่อลดการสั่นสะเทือนจากความสูงของตึกหรือแผ่นดินไหวได้เช่นกัน

โดยปกติแล้ว โครงสร้างและการออกแบบของหมอนลมนั้นสามารถทำได้อย่างหลากหลายตามความต้องการในการใช้งาน แต่โดยโครงสร้างพื้นฐานนั้่น จะประกอบไปด้วย 3 ชั้นหลัก ๆ เท่านั้น ประกอบไปด้วย ผิวด้านนอก ซึ่งเป็นส่วนที่สัมผัสกับอากาศ วัสดุพื้นผิวต่าง ๆ ที่ปกติจะมีผิวสัมผัสที่ลื่น มันเล็กน้อย ผลิตจากยางในชั้นนอกสุด

ตรงกลางจะเป็นส่วนของยางเสริมเส้นใย ที่วางในรูปแบบของการถักกันเป็นตาข่ายเส้นใย ซึ่งชั้นนี้จะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวถุงลม Airspring ซึ่งหากต้องการความแข็งแรงมาก ก็สามารถเพิ่มเส้นใยเข้าไปได้ แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อการยืดหยุ่นขณะใช้งานจริง ส่วนชั้นในสุดจะเป็นยางที่ปกติจะมีลักษณะด้านกว่าผิวชั้นนอก เป็นส่วนที่จะสัมผัสกับลมที่ใส่เข้าไปในหมอนลมขณะใช้งาน โดยวัสดุที่นำมาผลิตทั้ง 3 ชั้น จะแตกต่างไปตามการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นยางหรือเส้นใยก็ตาม

ถ้าถามว่าทำไมโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั่วโลกถึงหันมาใช้ถุงลม Airspring กันนั้น ก็ต้องมองไปถึงข้อดีที่เหนือกว่าเทคโนโลยีคอยล์สปริงแบบเดิม โดยหมอนลมนั้นจะเหนือกว่าในเรื่องของความสามารถในการแยกแรงสั่นที่มีช่วงความถี่ที่แตกต่างกันได้มากกว่า และยังแยกแรงสั่นได้หลายค่าตามความดันที่จ่ายให้กับตัว Airspring ในขณะใช้งาน

นอกจากนี้ ในเรื่องของความแม่นยำในการใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็เหนือกว่า เนื่องจากไม่มีความล้าของหมอนลมเหมือนกับสปริงที่ทำเกิดความล้าเมื่อใช้งานนาน ๆ ทำให้ขาดความแม่นยำในการทำงานลงไป นอกจากนี้ หากต้องการแยกแรงสั่นที่เท่า ๆ กันแล้ว ถุงลม Airspringจะใช้พื้นที่ในการติดตั้งที่น้อยกว่าคอยล์สปริงอย่างเห็นได้ชัดเจน

อีกเรื่องที่หมอนลมเหนือกว่าอย่างชัดเจน ก็คือการที่เทคโนโลยีนี้จะไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงเมื่อใช้งาน ซึ่งต่างจากคอยล์สปริงที่จะเกิดเสียงดังจากการกระทบกันเองของตัวคอยล์ ซึ่งหากรวมกับข้อดีเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ไม่ต้องการสารหล่อลื่นในการใช้งานแล้ว ตัวถุงลม Airspring ก็ได้รับการพิจารณาว่ามีความคุ้มค่ามากกว่าในเชิงของต้นทุนการผลิตเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น ๆ

โดยปกติแล้ว ผู้ผลิตถุงลม Airspring ทุกราย โดยเฉพาะการผลิตเพื่อใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม จะคำนึงถึงการใช้งานระยะยาว ที่ไม่ต้องการการบำรุงรักษามากนัก และต้องการเพียงแค่การดูแลพื้นฐานเท่านั้นสำหรับผู้ใช้งานจริง ซึ่งหากมีการติดตั้งที่ดี และเลือกการใช้งานหมอนลมที่เหมาะสมกับงานตั้งแต่เริ่ม ก็สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

เมื่อผ่านการใช้งานมาสักระยะ จะต้องทำความสะอาดพื้นผิวของถุงลม Airspringเพื่อตรวจสอบการเสื่อมสภาพ และหาร่องรอยขีดข่วนหรือรอยบาดจากของมีคม การทำความสะอาดเป็นเรื่องที่ง่าย โดยใช้เพียงน้ำอุ่นผสมสบู่ชุบผ้าหรือฟองน้ำขัดถูโดยรอบ ห้ามใช้แปรงลวดหรือกระดาษทรายขัดผิวยางโดยเด็ดขาด และห้ามใช้สารเคมี ตัวทำละลาย หรือการพ่นไอน้ำในการทำความสะอาด เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อการใช้งานของหมอนลมได้

นอกจากนี้ จะต้องทำการตรวจสอบอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อต่อลม สายลม และอื่น ๆ ต้องแก้ไขเมื่อพบว่ามีการรั่ว หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่หากใช้มาเป็นเวลานานมากแล้ว

หากมีการใช้งานผ่านไปสักระยะแล้ว มีคำแนะนำว่าให้ตรวจเช็คความแน่นหนาของระบบทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถใช้งานได้ตามปกติ หากพบว่าอุปกรณ์ใดมีความหลวมเกิดขึ้น ก็ต้องทำการขันให้แน่นตามเดิม อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ขันแน่นเกินไป โดยผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบความแน่นหนาที่เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์ทั้งระบบได้ จากคู่มือการติดตั้งและใช้งานที่ทางผู้ผลิตแนะนำมาด้วยทุกครั้ง

สำหรับการเก็บรักษาหมอนลมที่ยังไม่ได้ใช้งานนั้น มีข้อแนะนำว่าไม่ควรนำไปเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำมากจนเกินไป ถุงลม Airspring ที่ไม่ได้ถูกใช้งานอยู่ ควรที่จะเก็บรักษาไว้ในห้องที่มืด มีอากาศเย็นและมีความแห้งสูง โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงอาทิตย์หรือเครื่องผลิตโอโซนโดยตรง

และทั้งหมดนี้ก็เป็นคำแนะนำง่าย ๆ สำหรับการดูแลและบำรุงรักษา สำหรับการใช้งานถุงลม Airspringหรือหมอนลมโดยทั่วไป ซึ่งจะเห็นว่าง่ายกว่าการบำรุงรักษาคอยล์สปริง ที่ต้องทำความสะอาด เติมสารหล่อลื่น หรือต้องเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อยกว่านวัตกรรมรูปแบบใหม่นี้ ซึ่งก็ไม่น่าเปลกใจว่าเทคโนโลยีนี้ ได้รับความไว้วางใจในการใช้งานอย่างแพร่หลายไปทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก

ใครที่มองหาเทคโนโลยีการรองรับแรงสั่นสะเทือนที่มีความคุ้มค่าในการใช้งาน สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ยุ่งยาก และไม่ต้องการการดูแลบำรุงรักษาที่มากเกินไป ถุงลม Airspring คือคำตอบของโรงงานอุตสาหกรรมในยุคใหม่ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดความยุ่งยากและลดต้นทุนของทุกโรงงานได้อย่างดีเยี่ยม

          บริษัท IMC 1994 จำกัด ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายอะไหล่สำหรับเครื่องจักรอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น สายพานส่งกำลัง (TRANSMISSION BELT) สายพานลำเลียง (CONVEYOR BELT) สายพานไทม์มิ่ง (สายพานราวลิ้น) สายพาน V BELT , TIMING BELT, สายพานพียูไทม์มิ่ง (PU TIMING BELT) สายพานกลม (ROUND BELT) สายพานแบน (FLAT BELT) ถุงลม อุตสาหกรรม (AIR SPRING) และอะไหล่เครื่องจักรอุตสาหกรรมและเครื่องยนต์ครบวงจร จากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก อาทิ Continental, BehaBelt, Elatech , Dayco ให้เลือกใช้งานได้อย่างหลากหลายตามความต้องการ พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยตอบคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับอะไหล่ต่าง ๆ ให้กับท่านตลอดเวลา

สนใจสั่งซื้อหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อ IMC 1994 Co., Ltd.
Phone : +66 02 875 9700 (Auto)
LINE Official Account : @IMC.1994

X